ปกติแล้วทักษะการอ่านไพ่ อ่านคู่ต่อสู้ระหว่างเล่นไพ่ โป๊กเกอร์ ถือว่าสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ ทว่าในเกม Lower Limit Poker เราจะให้ความสำคัญที่การวิเคราะห์หรือรู้ให้ได้ว่าคู่ต่อสู้ในเกมนี้เป็นผู้เล่นประเภทไหนเสียมากกว่า เพราะว่าโอกาสที่เราจะได้เจอกับพวกเขาอีกมีน้อยมาก ๆ การโฟกัสไปที่ตัวผู้เล่นจึงมีประโยชน์มากกว่า เราจะไปดูกันว่าบนโต๊ะที่เราเล่นนั้นมีผู้เล่นประเภทไหนอยู่บ้าง แล้วจะหาวิธีรับมือพร้อมกับทำกำไรได้อย่างไรบ้าง
แยกคู่ต่อสู้ให้ออกจาก 2 สิ่งนี้
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ให้ได้ว่าคู่ต่อสู้ที่รายล้อมเราอยู่แต่ละคนเป็นอย่างไร โดยใช้ 2 สิ่งนี้ในการแยก ได้แก่
จำนวน Hand ที่เล่นเป็น Loose หรือ Tight
วิธีแยกผู้เล่นว่าเป็น Loose หรือ Tight เราจะดูจาก Hand ที่พวกเขาเล่น พวก Loose จะมีความโดดเด่นตรงที่เล่นจำนวน Hand ได้มากกว่า ขณะที่ Tight จะเริ่มต้นเล่นด้วย Hand ดี ๆ เท่านั้น วิธีนี้เอาไปใช้ได้ตั้งแต่ช่วง Pre-flop จนถึง Post-flop เพียงแต่ช่วงหลังอาจมีเงื่อนไขอื่นเข้ามาแยกแยะด้วย เช่น ผู้เล่นที่เข้าดู Flop บ่อยแล้วหมอบเมื่อไม่ติดอะไร เราก็จะเรียกพวกนี้ว่า Loose fit or fold
รูปแบบการเล่นเป็น Aggressive หรือ Passive
หลังจากที่เห็นการตัดสินใจเลือกมือที่จะเล่นกันไปแล้ว เราก็มาดูสไตล์การเล่นของคู่ต่อสู้ว่าเป็นแบบ Aggressive หรือ Passive โดยการแอคชั่นเข้าไปแล้วดูรีแอคชั่นของอีกฝ่าย เช่น Check/Raise หากอีกฝ่าย Bet กลับมาตามคาดหลังจากที่เรา Check ไปแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาคือ Aggressive กับอีกวิธีหนึ่งก็คือหลอกล่อให้คู่ต่อสู้บลัฟฟ์ ด้วยการแสดงความอ่อนแอให้เห็น หากเป็น Aggressive จริงพวกเขาจะไม่พลาดโอกาสนี้แน่
ขณะที่ผู้เล่นแบบ Passive พวกเขาจะไม่หลงกลง่าย ๆ เด็ดขาด ทำให้เราต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ก็ต้องมั่นใจด้วยว่าอีกฝ่ายจะไม่ Bet กลับมาและเราเองก็ถือไพ่ที่ดีพอตัวด้วย
ที่จริงแล้วโป๊กเกอร์ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก หากเรารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแบบไหนก็ให้เล่นฝั่งตรงข้าม หากเขา Loose เราก็ Tight หากเขาชอบ Bluff เราก็เปลี่ยนมาเล่น Passive แล้วล่อให้เขา Bluff หรือถ้าอีกฝ่ายเอาแต่ตั้งรับด้วย Passive เราก็ต้องหาวิธีรุกให้อีกฝ่ายจนมุมด้วย
ตำแหน่งที่แย่ที่สุดในการเล่นโป๊กเกอร์เห็นที่จะต้องยกให้กับตำแหน่ง Big Blind คนส่วนใหญ่ได้ตำแหน่งนี้เลือกที่จะหมอบไปตามๆกัน ก้เลยอยากจะมาแนะนำให้รู้จักกับ วิธีเล่น Big Blind และจะเล่นวิธีไหน ในสถานการณ์แบบไหน อย่างไร ก็มาดูกันเลย
Rock
ชื่อเรียกที่ดูสุดหินนี้มาจากสไตล์การเล่นแบบสุดโต่งของ Rock พวกเขามีความอด ทน ถึก มากพอที่จะนั่งนิ่ง ๆ เป็นชั่วโมงโดยไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรให้เราอ่านได้เลย เพราะสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอก็คือไพ่ที่ดีที่สุดเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่มีความเคลื่อนไหวก็คาดเดาไว้ได้เลยว่าอย่างน้อยต้องมี A 5 .ใบ หรืออะไรก็ได้ที่ดีว่านี้อยู่ในมือ ซึ่งเป็นเหมือนใบการันตีว่าเกมนี้พวกเขาคือผู้ชนะ
วิธีรับมือกับ Rock ง่ายมาก ๆ เพียงแค่
- เลิกสนใจว่าพวกเขากำลังรออะไร
- เมื่อมีโอกาสก็ให้ขโมย Blind จากพวกเขาเสีย
- หาก Raise Pre-flop แล้ว Rock Call กลับมา ให้รีบใช้ C-Bet จะมีโอกาสชนะ Pot มากกว่า
- หาก Rock เคลื่อนไหวบ่อยให้รีบหนีดีที่สุด
สิ่งที่ต้องระวังเมื่อเจอกับ Rock บนเกม Lower Limits ก็คือการทำตัวโง่ ๆ คิดว่าพวกเขากำลังบลัฟฟ์อยู่ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ทำอะไรแล้วอยู่ ๆ ก็มา Raise ใส่หน้าตาเฉย ผู้เล่นที่คิดแบบนี้แหละที่ Rock ต้องการ อย่าลืมว่าพวกนี้สามารถทำกำไรได้ไม่ยากแม้จะเป็นการเล่นแบบอ่อน ๆ ก็ตาม
นอกจากจะได้เรียนรู้วิธีรับมือกับผู้เล่น 8 ประเภทบนโต๊ะโป๊กเกอร์กันไปแล้ว ก็ยังมีเคล็ดลับการอ่านไพ่คู่ต่อสู้ที่นำมาฝากันไว้เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับ 7 หนทางสู่การเป็นผู้ชนะโป๊กเกอร์ รีบมาเรียนรู้และออกไปหาประสพการณ์กันดีกว่า
Nit
ผู้เล่นประเภทนี้อาจจะดีกว่า Rock นิดหน่อยก็ตรงที่พวกเขาพยายามที่จะเล่นมือที่ดี แต่ยังเข้าไม่ถึงนิยามของคำว่า Tight เลยส่งผลให้ Nit เป็นผู้เล่นที่ชอบหมอบเพื่อเรียนรู้จนเข้าใจในสิ่งที่ตนคิดและตัดสินใจ ก่อนที่จะหยิบ Starting hands chart ออกมาไล่ฟาดแบบ Aggressive กันตั้งแต่ช่วง Pre-flop ทว่าหลังจาก Flop ออกมาแล้ว Nit มักจะรู้สึกว่าทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุม และรู้สึกแย่ที่เข้ามาเล่นด้วย Hand แบบนั้น
บลัฟฟ์เป็นสิ่งที่ Nit จะไม่ค่อยทำ ยกเว้น C-Bet ดังนั้นเราเองก็ไม่ควรที่จะเริ่ม Call เพราะคิดว่าเขาบลัฟฟ์ แต่ถ้าเห็น Nit Raise/C-Bet ที่ Flop แล้ว Bet ที่ Turn มีความเป็นไปได้มากว่าพวกเขากำลังมีมือที่ดีที่สุดอยู่ในมือ
Weak Tight
กลุ่มผู้เล่นที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตรงกันข้ามกันแบบสุดขั้วเมื่อเทียบกับ Rock หรือ Nit พวกเขาจะไม่รู้ว่าต้องรับมือกับ Aggressive อย่างไร การตัดสินใจก็พลอยที่จะไม่แม่นยำไปด้วย ปกติแล้วผู้เล่นประเภทนี้จะเริ่มเผยตัวตนออกมาเมื่อมีจำนวน Hand ที่มากพอ และหมอบบ่อยเกินไป สิ่งที่เราต้องทำก็มีเพียงหาจังหวะ Aggressive ใส่, ขโมย Blind และ C-Bet แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่แย่ที่สุด หากต้องการทำกำไรจะต้องรู้จัก Aggressive ให้เหมาะสมด้วย
TAG
หรือก็คือผู้เล่น Tight Aggressive ผู้เล่นสไตล์นี้ถือว่ายากพอสมควร เพราะพวกเขาจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เป็นผู้เล่นที่มีการทบทวนตัวเองอยู่เสมอ มองหาจุดอ่อนของตัวเองแล้วใช้หลักการเดียวกันนี้กับคู่ต่อสู้ด้วย การจะขโมย Blind หรือ Aggressive เมื่อต้องเจอกับ TAG เป็นสิ่งที่ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด ทางที่ดีควรจะเว้นปะทะกับ TAG ที่อยู่ระดับเดียวกับเราแล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ Fish แทน
ถ้าหากว่าเราต้องการฝึกฝีมือแล้วล่ะก็ TAG ที่อ่อนกว่าจัดว่าเป็นคู่ซ้อมชั้นดีที่จะช่วยให้เราเห็นจุดอ่อนของตัวเองและปกปิดมันซะ ก่อนที่จะขยับไปเล่นโต๊ะที่สูงกว่า เพราะที่นั่นจะเต็มไปด้วย TAG ที่มากขึ้น
Maniac
“คิดถึง Maniac คิดถึงคนบ้า” น่าจะเป็นคำนิยามที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นประเภทนี้ พวกเขาจะเต็มไปด้วยความบ้าระห่ำที่ไร้รูปแบบ ถือเป็นตัวอันตรายที่รับมือได้ยากพอสมควร ด้วยสไตล์การเล่นแบบ Loose Aggressive สิ่งที่พวกเขามองมายังเกมโป๊กเกอร์ก็เป็นเพียงแค่เกมปาบอลที่ใครถือบอลใหญ่กว่าก็ชนะ มากกว่าจะมองว่ามันเป็นเกมกลยุทธ์ที่ต้องคอยคิดว่าปาอย่างไรให้เข้าเป้า
จึงไม่แปลกที่ Maniac จะถูกหลอกให้บลัฟฟ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัดอยู่แล้ว เมื่อเจอผู้เล่นประเภทนี้ การแสร้งโง่ สโลว์เพลย์ ดูจะเหมาะสมที่สุด แม้ว่าปกติแล้วเทคนิคนี้ไม่ใช่เรื่องดีในการเอามาเล่นบน Lower Limit จำไว้ว่าการเล่นแบบ Tight หลอกให้ Bluff แล้วไม่ Bluff ใส่ Maniac คือสิ่งจำเป็นมาก ๆ
สิ่งที่ต้องระวังขณะที่เสแสร้งแกล้งโง่ใส่ Maniac คืออย่าปล่อยให้ถูกดึงเข้าไปเป็นผู้เล่นประเภทเดียวกับเขา การเล่นโป๊กเกอร์ยังคงต้องใช้การตัดสินใจที่ถูกที่ถูกเวลา สงบสติอารมณ์แล้วเฝ้ารอจังหวะดึงเงินจากพวกนี้ให้ได้มากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกหัวร้อนไปกับ Maniac ควรจะรีบเปลี่ยนโต๊ะทันที
LAG
Loose Aggressive กลุ่มผู้เล่นที่มีความใกล้เคียงกับ Maniac เล่นได้หลาย Hand มาพร้อมด้วยความดุดันแบบ Aggressive แต่ควบคุมตัวเองได้ดีกว่า ปกติเราจะเห็น LAG ได้ตาม Higher Limit ส่วน Lower Limit จะมีแต่พวก Maniac ถึงอย่างนั้นก็มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยพยายามเลียนแบบการเล่นของ LAG โดยที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองแอคชั่นออกไป
สิ่งที่ LAG มักจะทำก็คือการเล่น Loose Staring Hand จนทำให้ตัวเองไปตกอยู่ในที่นั่งลำบาก สร้างภาพลักษณ์ให้คนอื่นมองว่าตัวเองคือ Maniac แล้วอาศัยการตัดสินใจที่ถูกต้องและแม่นยำทำกำไร เมื่อใดก็ตามที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา ควรจะหันมาเล่น Tight ให้มากขึ้นแล้วล่อให้ Bluff และอย่าเผชิญหน้าท่ามกลางสถานการณ์ที่ล่อแหลมเป็นอันขาด
Calling Station
ผู้เล่นประเภทนี้ถือว่าหาได้ยากมากในปัจจุบัน สไตล์การเล่นก็ไม่มีอะไรมาก คอลตามอย่างเดียวไม่ว่าจะนานแค่ไหน ไม่มีทีท่าของความ Aggressive ต่อให้มีมือที่ดีก็ตาม อย่าคิดที่จะถามหาเหตุผลในการคอลตาม ไม่ว่าเราจะ Raise Pre-flop หรือ Bet ที่ Flop ก็จะตามคอลหลอกหลอนทั้งที่ถือ 9 กับ 6 เอาไว้ แล้วมองหา 3 8 J ที่ Flop
ถ้าเจอผู้เล่นประเภทนี้มี 5 สิ่งที่ต้องทำก็คือ
- อย่า Bluff ใส่เด็ดขาด Semi-bluff ทำได้แต่อย่ามากเกิน
- ไม่ต้องล่อให้ Bluff เพราะพวกนี้ไม่ค่อย Bluff อยู่แล้ว
- ยิ่ง Value bet เพิ่มขึ้น โอกาสที่จะ Bet ด้วยไพ่กลาง ๆ ก็มีมากขึ้น ปกติแล้ว Calling Station จะคอลตามด้วยมือที่แย่เมื่อมีเหตุผลดี ๆ มารองรับเท่านั้น
- เน้นไพ่ Draw แบบ Passive เพื่อลุ้นดูไพ่ฟรีจากพวกเขา
- ทันทีที่ Calling Station เริ่ม Aggressive เป็นไปได้ว่าอาจถือไพ่ดีอยู่ในมือ
สำหรับการเล่นในปัจจุบันเราอาจได้เห็น Calling Station Bluff กันบ้างเมื่อพวกเขาไม่ติด Draw ที่ River ตราบใดที่เราถือไพ่ดีพอและยังต้องการกำไร Play for value ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ควรทำ
Donkey
ผู้เล่นแย่ ๆ ชอบเล่นแบบไม่คิด ไม่มีเหตุผล ปล่อยให้คนอื่นจูงไปเรื่อยแบบวิถีแห่งลาโง่ พวกนี้เจอได้ง่ายตาม Lower limit ชอบที่จะตามไปดู Flop โดยที่ไม่รู้เลยว่าทำไมเราต้อง Raise Pre-flop บางทีก็ Bluff ใส่หน้าตาเฉยเพียงแค่คิดว่าอีกฝ่ายต้องมีของดีอยู่ในมือ หรือการคอลตามด้วยไพ่แย่ ๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะได้เห็นจากพวก Donkey ด้วยเช่นกัน
สไตล์การเล่นของ Donkey มัก Draw แบบ Passive แล้วก็ไป Bluff เมื่อไม่ติด Draw ที่ River ขาดเหตุผลในการ Bet หรือ Raise รู้ว่าต้องแพ้แต่ก็ขอให้ได้บลัฟฟ์ รวมถึงคอลตามโดยที่ไม่มี Back up อะไรเลย เรียกได้ว่านี่คือลูกค้าชั้นดีสำหรับ Bankroll ของเราเลยทีเดียว
เหมือนว่าจะดูหมูดูลาก็จริง สิ่งเดียวที่เราต้องระวังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นประเภทนี้ก็คือความผันผวนทางอารมณ์ พวกเขาจะใช้อารมณ์เล่นเป็นหลักและมีหลายครั้งที่กลายเป็น Maniac โดยไม่รู้ตัว ยิ่งเวลาที่พวกเขา Tilt มันจะเผื่อแผ่มาถึงเราด้วย การเล่นตามตำราแบบ ABC รวมถึงสังเกตพฤติกรรมอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราหาจังหวะตอบโต้และตอดทำกำไรได้ง่ายขึ้น
บทสรุป
หัวใจสำคัญในการทำกำไรจากโป๊กเกอร์ ไม่ใช่การมีมือที่ดีกว่าคู่ต่อสู้ แต่เป็นการเล่นมือของเราให้ดีกว่าคู่ต่อสู้ที่เล่นมือของพวกเขาเท่านั้น แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไปสู้กับคู่ต่อสู้เก่ง ๆ ในช่วงที่ปั้น Bankroll จังหวะนี้ควรจะมองหา Nit, Weak Tight และ Calling Station พวกเขาจะช่วยปั้น Bankroll ของเราได้เป็นอย่างดี หรือจะเพิ่ม Maniac มาด้วยก็ได้ถ้าคิดว่าใจเรานิ่งพอ